AKIYOSHI (อะคิโยชิ) ร้านบุฟเฟต์สไตล์ญี่ปุ่นที่สายเนื้อห้ามพลาด
สำหรับร้านอะคิโยชิเป็นร้านสุกี้ยากี้ ชาบูชาบู สไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ที่เข้ามาเปิดบริการในประเทศไทยมายาวนานมากกว่า 28 ปีแล้วล่ะ จำนวนสาขาที่เปิดบริการก็มีอยู่ทั้งหมดจำนวน 6 สาขา ได้แก่ ร้านอะคิโยชิ สาขาพระโขนง, ร้านอะคิโยชิ สาขาสยามสแควร์วัน, ร้านอะคิโยชิ สาขาเซ็นทรัลเวสต์เกต, ร้านอะคิโยชิ สาขาสเปลล์ แอทฟิวเจอร์พาร์ค และร้านอะคิโยชิ สาขาจามจุรีสแควร์
สาขาที่เราไปวันนี้เป็น ร้านอะคิโยชิ สาขาพระโขนง วิธีการเดินทางไปร้านสำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัวก็ง่ายมาก โดยใช้สถานี BTS พระโขนง แล้วเลือกทางออก 1 จากนั้นเดินตรงไปจนเจออาหารไทยซินสแควร์ (ฝั่งขวามือ) มองเข้าไปจะเห็นป้ายของร้าน AKIYOSHI แบบเด่นๆเมื่อเดินเข้าตึกไปแล้วให้เลี้ยวขวา จะเจอบันไดวน ก็เดินขึ้นไปได้เลยค่ะ จะเจอร้านอะคิโยชิที่ชั้น 2 ทันทีร้านอะคิโยชิ (AKIYOSHI) ราคาเท่าไหร่?
ถ้าพูดถึงเรื่องราคา ทางร้านจะมีบริการ 2 แบบ ได้แก่ แบบ A La Carte ที่เราสั่งแยกเป็นจานๆ ตามที่เราต้องการกิน โดยระดับราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณร้อยต้นๆ ส่วนถ้าเป็นแบบ Buffet จะมีด้วยกัน 3 เรทราคาค่ะ ได้แก่
- AKIYOSHI Standard Buffet เริ่มต้นที่ 599.- บาท/ท่าน (ทานได้ 90 นาที)
- AKIYOSHI Deluxe Buffet เริ่มต้นที่ 999.- บาท/ท่าน (ทานได้ 90 นาที)
- AKIYOSHI Platinum Buffet ราคา 1,999.- บาท/ท่าน (ทานได้ 160 นาที สั่งอาหารได้ 90 นาที)
โดยความหลากหลายของเมนูก็จะลดหลั่นมากน้อยกันไปตามเรตราคาซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของ Buffet ตัว Standard จะมีเนื้อหมู เนื้อวัว(บางเมนู) ผัก เครื่องดื่มและของหวาน ส่วนเซตกลางก็จะคุ้มขึ้นมามากกว่าเพราะจัดเต็มทั้งเนื้อสัตว์ อาหารทะเล เมนูอาหารญี่ปุ่น ผัก เครื่องดื่มและของหวาน ส่วนเซต Platinum สามารถสั่งได้ทุกเมนูในร้าน โดยมีความพิเศษคือจะได้เนื้อวากิว เกรดพรีเมียม ปริมาณ 130 กรัม/ท่าน
เมื่อเราเข้าร้านก็แจ้งพนักงานได้เลยค่ะว่าจะทานแบบ A La Carte หรือแบบ Buffet ส่วนตัวเราที่เลือกเดินทางมาสาขาพระโขนงในวันนี้ก็เพราะอยากมาลองชิมบุฟเฟต์แบบคุ้มๆ เลยสั่งแบบ Deluxe Buffet ไป ซึ่งจะมีกระดาษมาให้เราเลือกสั่งเมนูที่เราสั่งได้ วิธีสั่งก็คือให้เราเขียนจำนวนแล้วส่งให้พนักงงานได้เลย โดยเมนูเซต Deluxe Buffet Akiyoshi ที่น่าสนใจมีดังนี้
- Premium Meat ได้แก่ เนื้อวากิวออสเตรเลีย เนื้อซุพีเีรยร์ หมูคุโรบุตุ
- Sushi & Sashimi & Appetizer เช่น ซูชิเนื้อวากิว ซูชิปลาแซลมอน ปูอัดซาชิมิ เอบิ บอมพ์ ซอสไข่กุ้ง แคลิฟอร์เนียโรล ยำแซลมอน
- เนื้อทั่วไป ได้แก่ เนื้อคาตะโรสึ เนื้อติดมันคารุบิ เนื้อหมู เบคอน เนื้อไก่ ไส้กรอกหมูรมควัน
- Seafood ได้แก่ กุ้ง ปลาหมึก ปลาแซลมอน หอยแมงภู่นิวซีแลนด์
- ผักและเส้น เช่น ชูดผักรวม ต้นหอมญี่ปุ่น หอมหัวใหญ่ ผักกาดขาว เห็ดเข็มทอง เห็ดหอม เห็ดหูหนู เห็ดออรินจิ เห็ดชิเมจิ ผักโขม ฟักทอง แครร็อต เส้นบุก วุ้นเส้น เต้าหู้ปลา เต้าหู้ชีส คามาโบโกะ เต้าหู้แผ่นทอด ฟองเต้าหู้ผู้โบว์
- เมนูข้าว ได้แก่ ข้าวญี่ปุ่น ข้าวผัดกระเทียม
- ซอส มีให้เลือดทั้ง ซีฟู้ด ไข่ไก่ (กินกับสุกี้ยากี้) พอนสึ ซอสงา ซอสอะคิยากิ (ปิ้งย่าง)
- ของหวาน ได้แก่ ไอศกรีมวานิลลา/ช็อกโกแลต/ชาเขียว/ยูสุ น้ำแข็งไสถั่วแดง ไอศกรีมซันเด วาราบิโมจิ
- เครื่องดื่ม (รีฟิล) มีทั้งชาเขียวร้อน ชาเขียวเย็น ชาจีนเย็น ชามะนาว เป๊บซี่ เป๊บซี่แม็กซ์ เซเว่นอัพ
- EXTRA Menu บวกเพิ่ม 99 บาท/ท่าน จะเป็นพวกเซ็ทซาชิมิ เนื้อปลาดิบ ไข่หว่าน เทมากิ โรล ต่างๆ
บอกเลยว่า อะคิโยชิ เมนูเขามาให้เลือกแบบแน่นจริงไม่จ้อจี้มาก นี่แค่ Deluxe แต่ถ้าเป็นตัว Platinum คือยกเซตอาหารญี่ปุ่นแทบทั้งหมดมาให้เราเลือกกันแบบละลานตา
ร้านอะคิโยชิ (AKIYOSHI) สั่งอาหารยังไง มีอะไรบ้าง?
พอเรารู้รายละเอียดเมนูไปแล้ว มาพูดเรื่องสไตล์การกินกันต่อสักหน่อย โดยในร้านอะคิโยชิเขาจะมีวิธีการกินอยู่ด้วยกัน 3 สไตล์ คือ
- สุกี้ยากี้ ที่เป็นการผัดก่อนแล้วใสซุปน้ำดำตามลงไป เวลากินก็เอาเนื้อสุกๆ มาจิ้มกับไข่ไก่
- ชาบูชาบู ที่เสิร์ฟเป็นซุปดาชิ ซุปน้ำใส จะเป็นชาบูต้มๆ แบบที่เราคุ้นเคยกันดี
- อะคิยากิ เป็นการทานแบบปิ้งย่าง เวลากินจะเอาเนื้อมาจิ้มกับซอสอะคิยากิสูตรพิเศษของทางร้านหรือจะกินกับซอสซีฟู้ดก็ได้
สำหรับเซ็ต Standard และ Deluxe จะเลือกทานได้มากสุด 2 สไตล์ (ขอแยกหม้อได้) หรือถ้าหากเพิ่มให้ครบ 3 สไตล์ จะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 59 บาท ส่วนเซต Platinum จะกินได้ครบทั้ง 3 แบบ เมื่อเราแจ้งพนักงานว่าจะกินสไตล์ไหน กี่หม้อ กี่แบบพนักงานก็จะเริ่มเตรียมกระทะ หม้อ และซอสต่างๆ มาให้แบบเข้าเซต
รีวิว อะคิโยชิ สาขาพระโขนง อร่อยไหม? คุ้มหรือเปล่า
มาเริ่มรีวิวกันบ้างดีกว่าค่ะ สำหรับร้านอะคิโยชิสาขาพระโขนง ร้านเขาจะโล่งดีเลยทีเดียว เพดานยกสูง มีพื้นที่ว่างระหว่างโต๊ะเยอะ กลิ่นอาการกระจายตัวดี ควันไม่แน่นหนาจนอึดอัด เมื่อเข้าร้านมาก็เลือกโต๊ะที่จะนั่งได้เลย
สามารถสแกน QR Code เพื่อเลือกดูเมนูที่น่าสนใจหรือจะติ๊กจากแผ่นๆ ไปก็ได้ เมื่อเราแจ้งเซตที่จะกินเสร็จสรรพ พนักงานก็จะมีรายละเอียดเวลามาให้ว่ากินได้ถึงกี่โมง
|
ชาจีนไม่หวาน หอมกลิ่นชา อร่อย |
เครื่องดื่มเราสั่งไปเป็นชาจีนซึ่งไม่หวาน ทานง่าย และเป็ปซี่ แม็กซ์ ซึ่งเครื่องดื่มเสิร์ฟไว รีฟิลไว แทบจะไม่ต้องเรียกให้เติมเลยค่ะพนักงานเขาดูอยู่ตลอด
|
เซ็ตสุกี้ยากี้ |
|
เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปดำ |
|
ไข่ไก่สด |
เราสั่งมา 2 สไตล์ คือ สุกี้ยากี้ ที่จะมาเป็นกระทะทรงก้นลึกและซุปน้ำดำ มีไข่ไก่มาให้ใช้จิ้มกับเนื้อ
|
ชาบู ชาบู น้ำใส |
|
เซตน้ำจิ้มพอนสึ และเครื่องเคียง |
ส่วนอีกสไตล์เราสั่งเป็นชาบูชาบูเพราะอยากกินแบบต้มๆ มีน้ำซุปให้พอซดๆ ก็จะเป็นหม้อโลหะมาพร้อมซุปสีทอง และน้ำจิ้มพอนสึ เครื่องปรุงรสต่างๆ
เริ่มต้นกินกันได้เลย!! เซตสุกี้ยากี้เราแจ้งให้พนักงานมาเริ่มผัดให้ โดยเขาจะเริ่มผัดจากหอมใหญ่ ต้นหอมญี่ปุ่นจนเริ่มมีสีใส จากนั้นก็แนบเนื้อลงไปเมื่อเนื้อเริ่มเปลี่ยนสีก็เทซุปน้ำดำตามลงไปเป็นอันเสร็จ
คีบเนื้อชิ้นเด้งๆ มากินคู่กับไข่ไก่สีเหลืองสวย รสชาติเนื้อนุ่ม หอมกลิ่นเนื้อดีมากๆ เราว่าเนื้อของร้านอะคิโยชิทำมาได้ดีเลยค่ะ เราสั่งเนื้อไปหลายแบบและคุณภาพก็ดีทุกแบบเลย