เปิดตัวกันไปแบบสดๆ ร้อนๆ ในเดือนพฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา สำหรับหูฟัง Marshall Minor IV หูฟัง True Wireless หูฟังไร้สายจากค่ายชื่อดังอย่าง Marshall ที่ไอ่เราก็หูฟังเก่าเสียพอดีเลยได้มีโอกาสหันมาลองหูฟังไร้สายจากบ้านอื่นบ้างนอกจากค่ายผลไม้ เลยอยากเก็บรีวิว Marshall Minor IV ดีไหม มาดูรีวิวกันได้เลยจ้า ออกตัวก่อนสักเล็กน้อยว่าเราอาจจะรีวิวสาย IT ได้ไม่เก่งเท่าไหร่นัก แต่ก็จะพยายามน้า
รีวิว หูฟัง Marshall Minor IV ดีจริงไหม? ราคาเท่าไหร่
ก่อนอื่นมาพูดถึงรายละเอียดเบื้องต้นของหูฟัง Marshall Minor IV กันดีกว่าค่ะ สำหรับราคา Official จะอยู่ที่ 4,990.- บาท เรื่องว่าจะได้ของแท้ไหม Marshall Minor IV ของแท้ดูยังไง? จากที่เราหาอ่านข้อมูลมา เพื่อความมั่นใจที่สุดให้ไปเลือกซื้อที่ Shop Marshall หรือถ้าใครไม่สะดวกเดินทางไปหน้าร้าน ให้เลือกซื้อหูฟัง Marshall Minor IV จากช่องทาง Official เท่านั้น จะปลอดภัยที่สุด ส่วนตัวเราสั่งซื้อผ่านทางร้าน Marshall Official Store บน Shopee
กดที่นี่เพื่อดูรายละเอียด / สั่งซื้อ จาก Link Affiliate สมทบค่าขนมผู้เขียนจ้า (*´∇`*)
สำหรับการจะตรวจเช็กว่าเป็นหูฟัง Marshall Minor IV เป็นของแท้ไหม? มีจุดสังเกตอยู่ด้วยกัน ดังนี้
- ที่บนกล่องด้านนอกจะต้องมีสติกเกอร์โมโนแกรมลาย ash ติดอยู่
- ด้านข้างของกล่องจะต้องมี QR Code สำหรับสแกนเพื่อลงทะเบียนรับประกันสินค้า
- ที่ด้านล่างของกล่องจะต้องมีเลข serial no. เพื่อลงทะเบียนรับประกันได้จริง (**อย่าลืมสแกนเพื่อลงทะเบียนประกันหูฟัง**)
- ที่ด้านล่างกล่องจะต้องมีการซีลเทปเอาไว้ และจะต้องไม่มีร่องรอยของการฉีก แกะ ตัดมาก่อนหน้า
|
เลข Serial No. ล่างกล่อง |
ตรวจเช็กรายละเอียดในกล่องกันแล้วก็มาดูของในกล่องกันต่อดีกว่า เมื่อเราแกะซีลเทปใสด้านล่างแล้วดันกล่องลงมา ในกล่องจะต้องมีอุปกรณ์เหล่านี้
- หูฟัง Marshall Minor IV พร้อมกระดาษคาด
- ตรงฐานกล่องด้านล่างมีสาย USB C 1 เส้น (ไม่มีหัวชาร์ตมาให้)
- มีคู่มือการใช้งาน 1 เล่ม
- มีคู่มือด้านกฎหมายและความปลอดภัย 1 เล่ม
|
USB-C แบบสายสั้น |
รายละเอียดของหูฟัง Marshall Minor IV True Wireless
- ระบบเสียง Marshall Signature Sound
- Dynamic Drivers 40mm
- Driver sensitivity: 106dB SPL (100mV @ 1 kHz)
- Driver Impedance: 32Ω
- Frequency response: 20Hz – 20kHz
- น้ำหนักเคส 39.41 กรัม
- น้ำหนักเฉพาะหูฟัง 7.39 กรัม
- แบตเตอรี่ใช้ได้นานสุด 7 ชั่วโมง และเมื่อใช้ร่วมกับเคสจะใช้ได้นาน 30 ชั่วโมง
- รองรับ Bluetooth Low Energy (LE) Audio
- รอบรับ Quick Charging
- ป้องกันน้ำได้ในระดับ IPX4
- สามารถใช้ร่วมกับแอปพลิเคชัน Marshall Bluetooth
- มาพร้อมกับฟังก์ชัน Battery Preservation ช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี
รายละเอียดยุบยับเต็มไปหมด แต่ถ้าจากที่เราอ่านรีวิวมาแล้วนั้นโดยรวมหูฟัง Marshall Minor IV จะพัฒนามาจากรุ่นก่อนคือ Marshall Minor III ในเรื่องของดีไซน์ที่ปรับให้รับเข้ากับใบหูมากขึ้น คุณภาพเสียงจะแน่นและตึ้บขึ้นมากกว่าก่อน โดนใจสายที่ชอบหูฟังเบสแน่นๆ
รีวิว หูฟัง Marshall Minor IV True Wireless
น้ำหนักโดยรวมของหูฟังจะเบา สัมผัสแรกที่จับจะรู้สึกว่าตัวหูฟังจะโปร่งๆ ไม่แน่นเท่าแบรนด์ Apple ที่เราใช้ค่ะ จุดนี้น่าจะเกิดจากการใช้พลาสติกรีไซเคิลในการผลิตหูฟังรุ่น Marshall Minor IV มากถึง 90% สัมผัสด้านนอกจะเป็นลายหนังขรุขระ
เปิดฝามาตัวหูฟังถูกจัดไว้ใน position หันหูฟังออกจากกัน ด้านหลังเป็นโซนรายละเอียดขนาดใหญ่
เมื่อดึงเอาหูฟังออก ด้านในเคสจะเป็นแท่นชาร์จที่จ่ายไฟให้กับหูฟังแต่ละข้าง
บริเวณด้านล่างเป็นที่ชาร์จแบต หัว USB-C มีปุ่มที่ใช้สำหรับ Pairing ขนาดใหญ่ กดง่าย อยู่ตำแหน่งซ้ายมือ เวลาเราจะจับคู่หูฟัง Marshall Minor IV กับอุปกรณ์ให้กดปุ่มทิ้งเอาไว้จนมีไฟสีฟ้าปรากฎขึ้นก็จะเชื่อมบลูทูธได้
มองด้านข้างความหนาของเคสไม่เกิน 1 ข้อนิ้ว ฝาด้านบนจะเปิดได้ประมาณ 2 step ถ้าจะดันให้สุดให้ดันฝาเคสจนได้ยินเสียงแป้กเบาๆ ก็จะเปิดฝาได้สุด ตรงนี้จะต่างกับตรงของ Apple ที่เวลาเปิดฝาเคสจะเปิดได้แบบสุดไปเลยแค่เพียงอย่างเดียว
ส่วนตัวหูฟังมาพร้อมกับ Design ที่เป็นเอกลักษณ์ค่ะ มีสัญลักษณ์ตัว M ของ Marshall ทั้ง 2 ข้าง ตัวลายตรงด้ามเป็นรอยไขว้ที่เก๋ดี ส่วนไมค์ก็จะอยู่ที่บริเวณก้านด้านล่าง ส่วนด้านบนเป็นช่องหูฟังสีทอง
เมื่อเอามาเทียบกับบ้านผลไม้จะเห็นได้ว่าส่วนดีไซน์ที่รับเข้ากับเบ้าหูจะคล้ายคลึงกัน ส่วนตัวเราชอบไซซ์ของทาง Apple มากกว่าค่ะเพราะคิดว่าขนาดของส่วนที่เราต้องใส่เข้าไปที่หูมันไม่ใหญ่เกินไป ในขณะที่ของ Marshall จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ไปนิดสำหรับหูผู้หญิงแบบเรา ส่วนตัวก้านของ Apple จะมีองศาที่โค้งมากกว่า ในขณะที่บริเวณก้านของ Marshall Minor IV จะเป็นก้านตรงเลย
|
เวลาใส่ หูฟังแนวเข้ากับหูดี |
ส่วนเรื่องคุณภาพเสียงของ Marshall Minor IV หลังจากที่เราลองใช้งานในช่วง 2-3 วันมาแล้วนั้น สิ่งที่สังเกตได้อย่างชัดเจนเลยหูฟัง Marshall Minor IV จะปล่อยเสียงโทนต่ำๆ หรือเสียงย่านความถี่ต่ำออกมาได้ดีมากๆ เวลาฟังเพลงเสียง Bass จะมาแบบอิ่มเอมเปรมปรีสุดๆ รายละเอียดของเสียงโดยรวมทำมาได้ดี แต่อาจจะมีบางจุดที่เสียงมีแตกๆ บ้างเล็กน้อย ส่วนเรื่องระดับความดังเมื่อเร่งเสียงจนสุด สำหรับเราคิดว่าค่าย Apple เสียงจะดังกว่า และเมื่อเปิดเสียงจนสุดก็จะมีเสียงจากหูฟังออกไปด้านนอกเล็กน้อย
|
Application Marshall Bluetooth |
ความสนุกของการใช้หูฟัง Marshall Minor IV คือ เราสามารถเชื่อมต่อเข้ากับ application Marshall Bluetooth ได้ด้วย (มีทั้งใน App Store และ Google Play) เมื่อโหลดแอปมาแล้วให้เราเชื่อมต่อหูหัง Marshall Minor IV เข้ากับโทรศัพท์ของเรา จากนั้นเปิดแอปพลิเคชั่นขึ้นมาก็จะปรากฎหน้าต่างตามภาพ
ตรงส่วน EQUALISER เป็นส่วนที่เราสามารถไปปรับจูนเสียงตามความชอบได้ และบริเวณด้านล่างสุด จะเป็นโซนของการตั้งค่าหูฟัง
- TOUCH CONTROLS เป็นการตั้งค่าการสัมผัสที่หูฟัง
- INTERACTION SOUNDS เป็นเสียงระบบหูฟังที่จะดังตอนที่เราใส่หูฟัง หรือใช้ระบบ touch control จะเปิดหรือปิดไว้ก็ได้
- AUTOPLAY/PAUSE เป็นการเล่นหรือหยุดแบบอัตโนมัติ ถ้าเราใส่หูฟังเพลงจะเล่นต่อหรือถ้าเราถอดหูฟังออกเพลงก็จะหยุดเล่น
- BATTERY PRESERVATION เป็นโหมดถนอมแบตเตอรีที่สามารถเลือกเปิด-ปิดได้
- ABOUT รายละเอียดทั่วไปของหูฟัง Marshall Minor IV
ระบบ TOUCH CONTROL ของ Marshall Minor IV
|
ระบบ Touch Control |
หูฟังรุ่นนี้ของ Marshall จะไม่มีปุ่มบนหูฟังเลย แต่จะใช้ระบบการสัมผัสแทน โดยมีวิธีใช้หลักๆ คือ
- แตะหูฟังเบาๆ 1 ครั้ง (ข้างไหนก็ได้) เพื่อ เล่นหรือหยุด
- แตะหูฟังเบาๆ 2 ครั้ง (ข้างไหนก็ได้) เพื่อข้ามไปข้างหน้า
- แตะหูฟังเบาๆ 3 ครั้ง (ข้างไหนก็ได้) เพื่อถอยไปข้างหลัง
- แตะหูฟังค้างไว้ที่ด้านขวา เพื่อเพิ่มเสียง
- แตะหูฟังค้างไว้ที่ด้านซ้าย เพื่อลดเสียง
- แตะหูฟังเบาๆ 2 ครั้ง เพื่อรับ/วางสาย
- แตะหูฟังค้าไว้ (ข้างไหนก็ได้) เพื่อปฏิเสธการรับสาย
ทั้งนี้เราจะเลือกแบบ Standard ตามที่ระบบเซตไว้ หรือเลือกแบบ Mini หรือจะปรับเองได้ตามต้องการ หรือจะปิดรับบการสัมผัสไปเลยก็ได้เช่นเดียวกัน
|
หน้าตาการปรับแต่ง EQUALISER |
ส่วนตรงระบบ EQUALISER อันนี้ดีค่ะ ตรงหมายเลข 1 จะเป็นระดับค่าสัญญาณเสียงที่ Marshall กำหนดเอาไว้แล้ว ซึ่งเสียงก็แน่นดีเลยค่ะ หรือถ้าเลือกแบบที่ 2 จะมีทั้งแบบ Custom ให้เราเลือกปรับคลื่นความถี่เสียงที่ชอบได้อย่างอิสระ หรือจะเลือกเป็นโหมดที่ระบบตั้งค่ามาแล้วก็ได้ ซึ่งมี BASS BOOST / MID BOOST / TREBLE BOOST / MID REDUCTION
สรุปแล้วสำหรับเรา หูฟัง Marshall Minor IV ถ้าเทียบกับราคาแล้วก็ทำมาได้น่าสนใจค่ะ ตัวน้ำหนักหูฟังอาจจะเบาไปหน่อยแต่ข้อดีก็คือมันก็ทำให้เราพกพาง่าย หยิบง่าย ถือง่าย ดีไซน์สีดำเป็นลายหนังสวยงาม คุณภาพเสียงเราว่าเบสมาแน่นๆ เป็นลูกๆ แบบบึ้มๆ ฟังแล้วสะใจมาก ยิ่งไปปรับโหมด BASS BOOST ยิ่งทรงพลังไปอีก ใช้ได้นานมากถึง 7 ชั่วโมง ส่วนตัวเราใส่ออกกำลังกายแล้วหูฟังเกาะเข้าหูดีเลยค่ะ ไม่หลุด ไม่ร่วง ใครที่กำลังมองหาหูฟัง True Wireless ราคากลางๆ คุณภาพเยี่ยมเราว่าลองเล่นหูฟัง Marshall Minor IV ก็น่าสนใจไม่น้อย