จะเป็นยังไงหากอนิเมะแนวนักเวทย์ การต่อสู้ รับภารกิจจะไม่ได้เล่าแค่เพียงฉากของการต่อสู้แต่เป็นเนื้อหาที่ชวนสะท้อนของการไหลผ่านไปอย่างรวดเร็วของเวลาที่ไม่อาจย้อนกลับ..ทว่าเส้นเรื่องไม่ได้ถูกเล่าไปจาก 1 ถึง 100 เพราะในเรื่อง FRIEREN คำอธิษฐานในวันที่จากลา มังงะขึ้นชื่อเรื่องนี้ฉีกขนบด้วยการเล่าจากจุดจบของการเดินทางและพาเราย้อนผ่านช่วงเวลาอันน่าจดจำของปาร์ตี้ผู้กล้าฮิมเมล
FRIEREN คำอธิษฐานในวันที่จากลา..อนิเมะ ที่ให้อะไรมากกว่าความฉาบฉวย
FRIEREN คำอธิษฐานในวันที่จากลา เป็นเรื่องแนวไหน? ถ้าเสิร์ชหาใน google ก็จะพบคำอธิบายว่าอนิเมะเรื่องนี้เป็นแนว ผจญภัย นาฏกรรม จินตนิมิต เพราะฉากหลังของเรื่องเป็นเมืองที่มีจอมมาร ผู้กล้า นักบวช นักดาบ และจอมเวทย์อยู่เต็มไปทั้งเมือง คำอธิษฐานในวันที่จากลา FRIEREN (葬送のフリーレン) เป็นมังงะญี่ปุ่นที่ถูกสร้างสรรค์เนื้อเรื่องขึ้นโดยอาจารย์เนฮิโตะ ยามาดะ ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารโชเน็งรายสัปดาห์ ปี 2563 และถูกผลิตเป็นอนิเมะอันเลื่องชื่อโดย Studio MADHOUSE ในปี 2566 ที่ผ่านมานี้ ส่วนเล่มมังงะ FRIEREN คำอธิษฐานในวันที่จากลา ฉบับญี่ปุ่นมีทั้งหมด 13 เล่ม ส่วนเล่มมังงะภาษาไทยโดยค่าย Siam Inter Comics ทั้งหมด 11 เล่ม (มีแบบ e-book ด้วยเช่นเดียวกัน)
เรื่องย่อและตัวละครหลัก FRIEREN คำอธิษฐานในวันที่จากลา
FRIEREN คำอธิษฐานในวันที่จากลา เป็นมังงะ อนิเมะที่มีพื้นหลังเป็นเรื่องราวของโลกแฟนตาซีที่จอมมารคอยรุกรานความเป็นอยู่ของมนุษย์ นั่นจึงทำให้มีเหล่าผู้กล้ารวมตัวตั้งปาร์ตี้ (Party) เพื่อเดินทางไปโค่นล้มจอมมารปีศาจให้พ่ายไปเพื่อความเป็นอยู่ที่สุขสบายใจของมนุษย์ได้อีกครั้งอ่านพล็อตเรื่องเริ่มต้น FRIEREN คำอธิษฐานในวันที่จากลา มังงะ เรื่องนี้ก็ดูทีท่าจะไม่ต่างไปจากเรื่องอื่นๆ ที่เต็มไปด้วยพลัง ความสามารถอันแสนโดดเด่นของแต่ละสายอาชีพในกลุ่มปาร์ตี้ ฉากการต่อสู้ที่แสนเร้าใจและความพยายามแบบปางตายเพื่อเอาชนะจอมมารให้ได้ในท้ายที่สุด แต่ทว่า มังงะ FRIEREN คำอธิษฐานในวันที่จากลา กลับไม่ได้เล่าเรื่องราวเหล่านั้นออกมาให้เข้มข้น เด่นชัดอย่างขนบที่นิยมทำกัน ..ในทางตรงข้ามมังงะเรื่องนี้กลับพาเราดำดิ่งไปกับช่วงชีวิตของเหล่าผู้กล้าหลังจากโค่นล้มจอมมารลงได้แล้วต่างหาก
ฟรีเรน นักเวทย์เผ่าเอลฟ์ที่มีอายุขัยมากกว่าพันปี |
หากเอาเรื่อง "เวลา" หรือ "อายุขัย" เป็นตัวกำหนด ด้วยความเป็นมนุษย์มากที่สุดก็อาจใช้ชีวิตไปตามประสาได้แค่หลักร้อยปีต้นๆ ก็นับว่าแก่กล้า แต่สำหรับฟรีเรน (Frieren) นักเวทย์สาวฝีมือระดับพระกาฬผู้ซึ่งเป็นเผ่าเอลฟ์ ที่อายุของเธอนั้นอาจเรียกได้ว่าเข้าข่ายระยะอนันต์เพราะตัวเธอมีชีวิตมานานมากกว่า 1,000 ปี ตลอดช่วงเวลาหลายแสนวันที่ผ่านมาเธอใช้ชีวิตไปตามประสาทั้งการเอาชีวิตรอดจากวันที่โดนบุกทำลายหมู่บ้าน
การพบเจอกับแฟลมเม (Flamme) อาจารย์ที่เธอรู้สึกยกย่องมากที่สุด หรือแม้แต่หลังจากนั้นที่เธอออกเดินทาง พร้อมเก็บสะสมเวทย์มนต์ที่น่าสนใจจนกลายเป็นงานอดิเรกไปโดยไม่ทันรู้ตัว
ฮิมเมล ตำแหน่งผู้กล้า |
ไฮเตอร์ ตำแหน่งนักบวช |
ไอเซน ตำแหน่งนักรบ |
จนกระทั่งเมื่อเธอได้พบเข้ากับฮิมเมล (Himmel) ชายหนุ่มผู้กล้า มาพร้อมกับผมสีฟ้าครามส่องประกายระยิบระยับ ที่ชักชวนฟรีเรนเข้ามาเป็นนักเวทย์ประจำกลุ่มปาร์ตี้ของเขาซึ่งมีไฮเตอร์ (Heiter) ตาพระนอกรีต และไอเซน (Eisen) คนแคระ (Dwarf) จอมพลัง เป็นสมาชิกอยู่ก่อนแล้ว
ฟรีเรน และเพื่อนๆ ในกลุ่มปาร์ตี้ |
การดึงตัวฟรีเรนที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปตามประสาให้ลุกขึ้นมาปราบจอมมารก็อาจไม่ใช่เรื่องที่เธอพิศสมัย แต่ฮิมเมลก็มาพร้อมกับคำพูดที่เอาชนะหัวใจของฟรีเรนที่เต้นมาหลายแสนวันให้สนใจและตกปากรับคำเข้าเป็นส่วนหนึ่งของปาร์ตี้ ก่อนที่เนื้อเรื่องจะ Fast Forward ไปอย่างรวดเร็วจนถึงชัยชนะที่กลุ่มปาร์ตี้นี้สามารถโค่นล้มจอมมารลงได้สำเร็จ
ภาพจาก https://www.imdb.com/title/tt22248376/mediaviewer/rm3866972673?ref_=ttmi_mi_all_sf_341 |
"เมื่อภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว เหล่าผู้กล้า เขาไปไหนกันนะ?" เป็นประเด็นคำถามที่น่าฉงน แต่ก็มีน้อยเหลือเกินที่เราจะได้รับชมวิถีชีวิตหลังเสร็จสิ้นภารกิจอันยิ่งใหญ่ของเหล่าผู้กล้าเหล่านั้น มังงะ FRIEREN คำอธิษฐานในวันที่จากลา จึงเริ่มต้นลากเส้นของเรื่องราวจากจุดนี้ ผ่านจุดแรกของการเฉลิมฉลองชัยชนะ รูปปั้นวีรบุรุษและฝนดาวตกเอระ ที่จะปรากฎออกมาแค่เพียง 1 ครั้งในรอบ 50 ปี ประกายของมันส่องแสงแพรวพราวเต็มฟ้าราวกับเป็นสัญลักษณ์ของการเปิดม่านประตูสู่ยุคแห่งความสงบ ก่อนที่ฟรีเรนจะออกปากชวนไว้ว่า "อีก 50 ปี เธอจะขอพาทั้ง 3 คนไปชมฝนดาวตกเอระที่สวยงามและชัดเจนมากกว่านี้" และแล้วเวลาแห่งความสนุกก็จบลง สมาชิกปาร์ตี้ทั้ง 4 คน ต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเองอีกครั้ง
50 ปีให้หลังฟรีเรนที่ยังคงสภาพเดิมทุกกระเบียดนิ้วเดินทางกลับมาเมืองหลวงอีกครั้ง ก่อนที่จะเริ่มตระหนักได้อย่างเชื่องช้าว่า "กาลเวลามันช่างเลวร้ายเสียจริง" ฮิมเมล ไฮเตอร์ และไอเซน ดูแก่ชราลงไปราวกับเป็นคนละคน พวกเขาออกเดินทางกันอีกครั้งเพื่อไปชมฝนดาวตกเอระที่สวยงามที่สุด ฮิมเมลกล่าวอย่างสุขใจว่าเขาเฝ้ารอวันที่ทั้ง 4 คนได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งในวันนี้..วันที่เป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขา
ภาพจาก https://www.imdb.com/title/tt22248376/mediaviewer/rm2465878785?ref_=ttmi_mi_all_sf_326 |
ก็เพราะว่าฉันไม่รู้เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับคนคนนี้เลย แถมยังเดินทางมาด้วยกันแค่ 10 ปีเท่านั้นเอง ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าอายุขัยของมนุษย์มันสั้นมากแค่ไหน ทำไมฉันถึงไม่คิดจะทำความรู้จักให้มากกว่านี้นะ
ข้อความในใจครั้งสุดท้ายที่ฟรีเรนมีโอกาสได้กล่าวพร้อมปาดน้ำตาอย่างไม่อาย ในขณะที่เศษดินกำลังฝังกลบร่างของฮิมเมลที่บรรจุอยู่ในโลงไม้ที่พื้นด้านล่าง พร้อมมีไฮเตอร์และไอเซน ยืนเคียงข้าง นี่นับเป็น "คลื่นเวลา" ระลอกแรกที่โถมเข้าใส่เอลฟ์สาวผู้อยู่ยั้งยืนยงมาแสนนาน และกว่าที่เธอจะเริ่มรู้สึกตัวก็ถึงเวลาที่ต้องสูญเสียหนึ่งในคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอไปเสียแล้ว
หลังจากการบอกลาอันแสนเศร้า ฟรีเรนตัดสินใจออกเดินทางอีกครั้งเพราะเธออยากทำความรู้จักและเข้าใจมนุษย์ ให้มากกว่านี้ เธอตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะข้องแวะกับผู้คนในระหว่างการเดินทางให้มากขึ้นและออกเดินทางตามรอยปาร์ตี้ผู้กล้าที่มีฮิมเมลเป็นผู้นำอีกครั้ง เพื่อค่อยๆ ทำความเข้าใจ ซึมซับและจดจำเรื่องราวทุกอย่างเอาไว้ก่อนที่ทุกอย่างจะเลือนหายไปจนไม่เหลือร่องรอยแห่งความทรงจำ
แฟรุน เด็กสาวที่ไฮเตอร์รับมาชุบเลี้ยง |
ฟรีเรนออกเดินทางไปจนทั่ว ก่อนที่จะเดินทางกลับมาหาไฮเตอร์ ตาพระนอกรีตอีกครั้งในรอบ 20 ปี "คลื่นเวลา" ระลอกใหม่ทำให้ฟรีเรนเริ่มเข้าใจความเป็นมนุษย์มากขึ้นเพราะไฮเตอร์ แก่ตัวลงและมีโรคประจำตัวทำให้ร่างกายทรุดโทรมไปตามวันเวลา
สุดท้าย คำอธิษฐานในวันที่จากลา ของไฮเตอร์ตาพระนอกรีตที่ดูเหมือนจะไม่เคยสนใจใยดีใคร (นอกจากน้ำหมัก) ในสายตาของฟรีเรน คือ การขอให้เธอรับเอา "แฟรุน" (Fern) เด็กสาวตัวเล็กที่มีพรสวรรค์เรื่องเวทมนต์ไปเป็นลูกศิษย์ ที่ถึงแม้ว่าในอดีตเมื่อ 20 ปีก่อนฟรีเรนเคยบอกว่าไม่สนใจรับใครเข้ามาเป็นลูกศิษย์อย่างแน่นอนเพราะว่าไม่นานก็จะต้องตายจากกันไป..แต่วันนี้ดูเหมือนเธอจะเริ่มเข้าใจอะไรๆ ได้มากขึ้นเพราะมนุษย์ไม่ได้มีแค่เพียงการตายจากกันไปเท่านั้น
การจากลาครั้งสุดท้ายกับไฮเตอร์ |
หลังจากการจากไปของไฮเตอร์ ฟรีเรนและแฟรุนก็ออกเดินทางร่วมกันผ่านผันคืนวันไปอย่างเรียบง่าย ความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 คนก่อร่างสร้างตัวขึ้นอย่างแนบแน่น นั่นเป็นเพราะฟรีเรนเริ่มเปิดใจและพยายามทำความเข้าใจความเป็นมนุษย์ได้ดีมากขึ้นกว่าเมื่อหลายสิบปีก่อนแล้วนั่นเอง
เนื้อเรื่องเล่าต่อไปเรื่อยๆ ทั้งการที่เธอและแฟรุนเดินทางไปหาไอเซนที่อาศัยในหมู่บ้านคนแคระก่อนที่จะให้ความช่วยเหลือเขาอีกครั้ง คำอธิษฐานในวันที่จากลา ของไอเซนคือ การขอร้องให้ฟรีเรนออกเดินทางไปยังโอรีออล ดินแดนแห่งสรวงสวรรค์ที่เชื่อกันว่าสามารถพูดคุย สื่อสารกับวิญญาณของผู้สายชนม์ได้อีกครั้ง เพื่อให้ฟรีเรนที่เริ่มเข้าใจความรู้สึกของความเป็นมนุษย์ได้พูดคุยกับฮิมเมลผู้ลาลับจากไป
ออกตามหาดอกหญ้าจันทร์ครามเพื่อฮิมเมล |
หรือฉากที่เธอและแฟรุนออกเดินทางไปยังดินแดนต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่ที่ปาร์ตี้ของฮิมเมลเคยเดินทางผ่านมา ก่อนที่ฟรีเรนจะพบว่าเรื่องราวของพวกเขาล้วนยังคงอยู่ใน "ความทรงจำ" ของผู้คนในระหว่างทางอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการพยายามดูแลรูปปั้นของฮิมเมลเป็นอย่างดี การส่งต่อเรื่องราวต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นไปสู่อนาคตแบบรุ่นต่อรุ่น ซึ่งบางเรื่องราวก็ช่างแตกต่างไปจากความเป็นจริงที่ฟรีเรนเคยอยู่ร่วมเหตุการณ์มานักต่อนัก
ทุกเรื่องราวที่อุบัติขึ้น ทุกความทรงจำที่ประทับรอยเอาไว้ในหัวใจและสมอง ล้วนทรงพลังอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าคนผู้นั้นจะมีอายุขัยที่แสนสั้นหรืออายุเป็นอนันต์สุดจะยืนยาว
การบอกรักผ่านเนื้อแฮมเบิร์กชิ้นโต ที่อาจดูยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่นนัก |
เพราะสำหรับความทรงจำระหว่างฮิมเมล ไฮเตอร์ ไอเซนและฟรีเรน ที่เกิดขึ้นในช่วง 10 ปี ที่ฝั่งหนึ่งมองว่าเป็นช่วงเวลาที่แสนยาวนาน แต่ฟรีเรนกลับมองว่ามันก็แค่เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ที่หมุนไปแค่ 10 ปี กระนั้นเรื่องราวที่ค่อยๆ ถูกย้อนกลับมาเรื่อยๆ ทำให้เราได้รู้ว่าความทรงจำที่เคยเกิดขึ้นแล้วนั้นล้วน matter ต่อใจได้เสมอ... matter ถึงขั้นที่ว่าเวลา 10 ปีที่ดูเหมือนจะเร็วราว 5 สัปดาห์ในช่วงชีวิตของฟรีเรนกลับทำให้เธอที่มีอายุมามากกว่า 1,000 ปี เปลี่ยนแปลงไปได้มากกว่าที่คิด
สู่บทเรียนสำคัญถัดมา คือ "การมองเห็นคุณค่าของทุกๆ สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว การให้ความสำคัญกับเวลา ณ ปัจจุบัน อย่างเต็มที่" อย่ารีรอให้วันเวลาไหลผ่านไปจนเกินหวนกลับ..เพราะชีวิตจริงของเราไม่มีโอรีออล ไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่ามีดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถพูดคุยกับคนตายได้อีกครั้งเหมือนในมังงะเรื่องนี้
เมื่อรู้สึกผิดก็ควรขอโทษ เมื่อโกรธแล้วก็ควรหันหน้าคุยกันและพยายามปรับความเข้าใจกัน เมื่อ "รัก" ก็ให้เรียนรู้ที่จะบอกรัก ชื่นชม และกล่าวถ้อยคำดีๆ ต่อกัน
ฉากสวมแหวนในตำนาน |
ฟรีเรน เรียนรู้ที่จะชื่นชมและแสดงความในใจออกมา |
เวทมนต์ที่สร้างดอกไม้ขึ้นมาได้ เรียบง่าย แต่มันคือ ทั้งหมด |
และจงเรียนรู้ที่จะชื่นชมกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่มันอาจจะดูราวกับว่าไม่สลักสำคัญอะไรกับชีวิต..แต่แท้จริงแล้วรายละเอียดเล็กๆ เหล่านั้นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่แสนจะสำคัญที่สุดในช่วงชีวิตของเรา
หมดจากส่วนปรัชญาที่แแฝงเข้ามาในมังงะ FRIEREN คำอธิษฐานในวันที่จากลา ที่เราถอดมาได้ตามความคิดของตัวเองแล้ว ก็คงขอพูดไปต่อถึงเรื่องความงดงามของภาพที่ปรากฎในผลงานอนิเมะเรื่องนี้ มีคนจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชมว่า Studio MADHOUSE หยิบเอาภาพนิ่งฉบับมังงะมาเสกสันความมีชีวิตชีวาเข้าไปได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งเราเองก็เห็นด้วยแบบไร้สิ่งขัดข้องแต่อย่างใด เพราะภาพที่ปรากฎในเรื่อง FRIEREN คำอธิษฐานในวันที่จากลา นั้นสวยงามมากๆ ลายเส้นเป็นเอกลักษณ์ดูคมชัดแต่ในขณะเดียวกันก็ได้โทนภาพที่แสนสงบ อบอุ่นหัวใจ
ดีไซน์ใบหน้าและรูปร่างของตัวละครให้ดูมีความกลมมนเล็กน้อย ดูมีความเป็นมิตรต่อหัวใจ งานฉากหลังสวยงาม มีมิติ เราชอบการทำภาพเคลื่อนไหวที่ดูราวกับเป็น 4D ในบางฉาก ดูเหมือนเกมภาพสวยๆ มากกว่างานอนิเมะ
ฉากต่อสู้กับร่างโคลน |
ฉากต่อสู้อาจจัดว่ามีเปอร์เซนต์ที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับการเล่าเรื่องราวมากปรัชญา แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ถึงฉากการต่อสู้ภาพก็สวย มีการร่ายเวทย์ที่สุดแสนจะ fantasy ช่วยตัดรสชาติให้มีความโดดเด่น ตื่นตาตื่นใจ หลังจากที่มีความเรียบง่ายต่อเนื่องกันมาหลายตอน เหนือไปกว่านั้นเราชอบการเล่าเรื่องที่กระชับ ฉับไว ไม่ทิ้งฉากให้ยืดยาดเน้นเฉพาะฉากที่มีความสำคัญ ถึงแม้จะเป็น 28 ตอนแต่ก็บอกได้เลยว่าเป็น 28 ตอนที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อเรื่องหลักๆ ที่ไม่เยิ่นเย้อ มีแต่น้ำมากเกินไป
หากใครที่ชอบอนิเมะแนวฮีลใจ ไม่ได้เน้นเนื้อเรื่องที่หนักสมอง ไม่ต้องต่อสู้กันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน พร้อมทั้งทิ้งข้อคิดแบบปลายเปิดให้เราได้ขบคิดตามไปเรื่อยๆ เราว่าทั้งมังงะ อนิมะ FRIEREN คำอธิษฐานในวันที่จากลา คือเรื่องที่ใช่เลยล่ะ สามารถติดตามรับชม FRIEREN คำอธิษฐานในวันที่จากลา ทั้ง 28 ตอน แบบพากย์ไทย / ซับไทย ได้ทาง NETFLIX, Bilibili, iQIYI, TrueID, Prime Video
ขอบคุณภาพประกอบบทความจาก 『葬送のフリーレン』公式 / 『葬送のフリーレン』アニメ公式